การผลิตกาแฟสำเร็จรูปแบบผง
Spray Dried Instant Coffee Powder
กระบวนการผลิตกาแฟแบบแห้ง (Dry Processing) คือการคัดเลือกเอาผลกาแฟที่สุกพอดีเท่านั้นมาเป็นวัตถุดิบ เริ่มจากนำผลกาแฟไปเทใส่น้ำแล้วคัดเลือกเอาผลที่ลอยน้ำทิ้งเพราะ เป็นผลที่สุกเกินไป หรือผลแห้ง หรือผลที่ถูกแมลงทำลาย จากนั้นนำผลที่จมน้ำไปตาก ในการตากจะไม่ให้มีความหนาของชั้นผลกาแฟเกิน 3 เซ็นติเมตร และกลับเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันการหมักและให้ผลกาแฟมีสีสม่ำเสมอ
กระบวนการต่อมาคือ การกะเทาะเปลือก หลังจากได้ผลกาแฟที่แห้งแล้วจะนำไปกระเทาะเปลือกเพื่อเอาส่วนที่เรียกว่า Pericarb ออกโดยใช้เครื่องกระเทาะเปลือกที่มีสกรูเป็นอุปกรณ์หลักในการทำให้เปลือกหลุดออก ในอุตสาหกรรมขนาดเล็กอาจใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายครกกับสากเป็นเครื่องกระเทาะเปลือกก็ได้
หลังจากได้เมล็ดกาแฟที่ถูกกระเทาะเปลือกเรียบร้อยแล้วจึงนำมาทำความสะอาดด้วยเครื่องเป่าลม แล้วนำไปร่อนตระแกรงเพื่อกำจัดสิ่งที่ปะปนเข้ามาเช่น เปลือกกาแฟ เศษหิน กิ่งไม้ เศษกระสอบ เป็นต้นจากนั้นนำไปคัดเกรด ตามขนาดรูปร่างและกลิ่น ความหนาแน่นและสี
การคั่วเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการผลิตกาแฟ โดยอุณหภูมิที่ใช้ในการคั่วกาแฟจะอยู่ที่ประมาณ 200 องศาเซลเซียส ซึ่งในกระบวนการคั่วนี้จะทำให้ได้กลิ่นและรสสุดท้ายของกาแฟ
จากนั้นนำมาบดให้เป็นผงด้วยเครื่องจักร (Motorized grinding mills) แล้วนำมาสกัด (Extraction) โดยใช้น้ำเป็นตัวทำละลายกาแฟเพื่อการสกัดของแข็งที่ละลายน้ำได้ในกาแฟ จะกระทั่งสารละลายกาแฟมีความเข้มข้นประมาณ 15-25% โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 175 องศาเซลเซียส
มาถึงกระบวนการทำกาแฟสำเร็จรูปแบบพ่นฝอย (Spray Drying) คือการนำสารละลายกาแฟเข้มข้นมาทำให้แห้งโดยใช้ เครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย เป็นการทำให้น้ำกาแฟเกิดเป็นละอองเล็กขนาดหยดน้ำ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100-200 ไมโครเมตร ในกระแสลมร้อนที่ไหลในทิศทางเดียวกันที่อุณหภูมิ 150-300 องศาเซลเซียส ในถังทำแห้งขนาดใหญ่ กาแฟแห้งที่ได้จะถูกแยกออกไปโดยการใช้สายพานลำเลียงแบบสกรูเกลียว ส่วนของเหลวที่ยังไม่แห้งจะถูกส่งไปยังภาชนะหมุนเพื่อกลับไปผ่านกระบวนการใหม่ จนได้กาแฟสำเร็จรูปแบบพ่นฝอย